พิสูจน์รสชาติอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่ “Doorae Korean Restaurant”
เคยเป็นกันมั้ยเวลานั่งดูซีรี่ย์เกาหลีอยู่ดีๆ เสียงท้องก็ร้องขึ้นมาซะอย่างงั้น ก็มันอดใจไม่ไหวเวลาเห็นเหล่านักแสดงทั้งหลาย กินอาหารเกาหลีกันแบบเต็มปากเต็มคำนี่สิคะ ทั้งข้าวยำที่คนไทยรู้จักดี หรือจะเป็นปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่ใครได้ลองแล้วต้องติดใจ ขอบอกเลยว่า “Doorae Korean Restaurant” ที่ส้มนำมารีวิวในวันนี้ จะทำให้ทุกคนฟินไปกับรสชาติอาหารเกาหลีแท้ๆ แน่นอนค่ะ
ร้าน Doorae Korean Restaurant (ร้านอาหารเกาหลีดูเร) รวบรวมอาหารเกาหลีหลากหลายประเภทไว้ให้คนที่อยากลองทานอาหารเกาหลีมาพิสูจน์ความอร่อย การเดินทางก็ไม่ยากจนเกินไป ใครนั่ง BTS ก็ลงสถานีอโศก แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็จะถึง “Korean Town” ติดกับซอยสุขุมวิท 12 หากเพื่อนๆ คนไหนขับรถมาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอด เพราะที่นี่มีลานจอดรถกว้างขวางพอสมควร แต่ต้องเสียค่าจอดรถ 20 บาทก่อนนะจ๊ะ (อย่าลืมให้ร้านประทับตราบัตรจอดรถให้เราด้วย จะได้ไม่เสียเงินเพิ่ม)
ปล. ภาพรีวิวชุดนี้ถ่ายจากมือถืออย่างเดียว อาจมีชัดบ้างเบลอบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ
Korean Town (โคเรียนทาวน์) หรือสุขุมวิทพลาซ่ามีทั้งหมด 4 ชั้นค่ะ แต่ส่วนใหญ่ร้านอาหารจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ใครมาครั้งแรกอาจตกอยู่ในอาการ “รักพี่เสียดายน้อง” เพราะมีร้านให้เลือกเยอะมาก ถึงแม้จะมีเมนูอาหารใกล้เคียงกัน แต่รสชาติก็เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน ส้มเคยไปกินที่ร้านอื่นแต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากแถมราคาค่อนข้างสูง จนมาเจอร้านในดวงใจ “Doorae Korean Restaurant” (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ แค่ร้านดูเรนะคะ) คราวนี้ติดหนึบไม่หนีไปกินร้านอื่นเลยค่ะ แล้วมันเด็ดดวงยังไงถึงชนะใจเราได้ มาม่ะ ส้มจะสาธยายให้ฟัง 555
หากหันหน้าเข้าอาคารสุขุมพลาซ่า ร้านดูเรจะตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ หน้าร้านไม่ใหญ่ไม่โต แต่ด้านในแบ่งออกเป็น 4 ชั้น (ปกติจะให้บริการแค่ 2 ชั้นแรก แต่มีครั้งนึงที่ลูกค้าเยอะ ส้มเลยต้องไปนั่งชั้น 4) ทำให้เรารอคิวไม่นานนัก ที่ต้องรอคิวเพราะร้านนี้ได้รับความนิยมมากเลยค่ะ ถ้าไปกัน 2 คนทางร้านไม่รับจองทางโทรศัพท์ด้วยนะ ส้มเลยต้องไปลุ้นคิวที่หน้าร้านทุกครั้งเลย แต่ถ้าไปเป็นกลุ่มใหญ่โทรจองโต๊ะได้ไม่มีปัญหาคะ
หน้าร้านดูเร
ลายเซ็นต์คนดังทั้งหลายที่เคยมาทาน บ่งบอกว่าดังไม่ใช่เล่น
พอเข้ามาในร้าน สิ่งที่ได้รับทุกครั้งคือคำกล่าวต้อนรับของพนักงาน หลังจากได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าจะกินอะไรดี เมนูที่นี่เล่มหนามาก มีเนื้อหมูให้เลือกพอสมควรค่ะ บางร้านเน้นแต่เนื้อวัว (เพราะคนเกาหลีนิยมมากกว่า) ราคาต่อจานอาจมองว่าแพง เพราะหลัก 300 บาทขึ้นไป แต่เมื่อเทียบกับรสชาติและเครื่องเคียงที่เติมได้ไม่อั้น ก็ถือว่าคุ้มนะคะ
ตำรา เอ้ย เมนูค่ะ
อาหารเกาหลีที่เราคุ้นเคยกันดีก็มีทั้งสารพัดข้าวยำ และซุปต่างๆ รวมถึงบางอย่างก็ไม่คุ้นตาเท่าไหร่ ส้มไปทีไรก็จะสั่งแต่เมนูปิ้งย่าง กับซุปอีก 1 ที่ แค่นี้ก็อิ่มแปล้แล้วค่ะ (เมนูปิ้งย่างต้องสั่งเนื้อ 2 จานขึ้นไปถึงจะมีบริการเตาย่างให้ที่โต๊ะนะคะ ถ้าสั่งจานเดียวเค้าจะย่างมาให้ค่ะ) เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอาหารจานไหนน่าสนใจบ้าง
เมนูอาหารหลากหลาย อยากสั่งทุกอย่างเลย
ขึ้นชื่อว่าอาหารเกาหลีสิ่งที่ต้องมีคือ “เครื่องเคียง” ที่ร้านดูเรก็มีหลายอย่างเช่นกัน แต่ละครั้งที่ไปอาจจะมีแตกต่างกันบ้าง แต่ที่ยืนพื้นคือ กิมจิผักกาดขาว , กิมจิหัวไชเท้า , ผักกาดหอมยำใส่พริกกับน้ำมันงา และสลัดมันฝรั่ง ส้มว่ากิมจิที่นี่ทำได้อร่อยมาก เวลากินคู่กับเนื้อย่างห่อด้วยผักกาดหอมหรือใบงา โห! เข้ากันแบบสุดๆ
สารพัดเครื่องเคียง เติมได้ไม่อั้น
ผักกาดหอม ผักสลัด และใบงา เอาไว้ห่อเนื้อก่อนกินค่ะ
ร้านดูเร มีน้ำจิ้ม 4 แบบ แต่ที่ส้มชอบที่สุดคืออันที่มีหน้าตาคล้ายน้ำจิ้มสุกี้ค่ะ
นั่งรอแป๊บเดียวเตาย่างก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ โดยปกติแล้วพนักงานจะเป็นคนย่างและหั่นเนื้อให้เราค่ะ แต่ถ้าใครอยากย่างเองก็บอกได้ ส้มชอบย่างเองมากกว่าไปทีไรไม่ต้องรบกวนพี่ๆ พนักงานเลย 555
ระหว่างรอก็สำรวจอาวุธ สะอาดเยี่ยมยอด (เวลาตะแกรงดำก็เปลี่ยนได้นะคะ)
เตาปิ้งย่างมาแล้ว ถ่านที่นี่ใส่ครั้งเดียวอยู่ยาวเลยล่ะ
เตามาแล้ว เริ่มย่างได้เลย จานนี้เป็นหมูสามชั้นหมักซอส
เนื้อสไลด์นุ่มๆ กินกับใบงาเข้ากันสุดๆ
ซี่โครงเนื้อย่างหมักซอสก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
เร่ิมย่างกันเถอะ รอไม่ไหวแล้ว
เอาหมูจุ่มน้ำจิ้มแล้ววางบนใบงา เพิ่มกระเทียมนิด พริกสดหน่อย กิมจิปิดท้าย แล้วก็อ้ามมม
พูดถึงซุปส้มเคยกินแค่ เมนูคือ ซุปกิมจิใส่เต้าหู้และหมูสามชั้น , ต้มยำปลาเกาหลี (ตงเทชิเก) , และซุปซี่โครงหมู่ใส่มันฝรั่ง แต่ที่ชอบสุดคืออย่างแรกค่ะ เวลาซดตอนร้อนๆ ยิ่งอร่อยคูณสอง ส้มมีวิธีการทานซุปกิมจิให้ด้วย คือตักข้าวที่มีอยู่ในชุดซุปมาผสมกับซุปกิมจิให้เหมือนข้าวต้ม จากนั้นก็ใส่กิมจิหัวไชเท้าลงไปคลุก แล้วตักเข้าปากคำใหญ่ๆ แค่นี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแล้วล่ะค่ะ เพื่อนๆ ลองทำกินดูได้ไม่มีค่าลิขสิทธิ์นะคะ (^_^)
ซุปกิมจิเดือดๆ ซดทีแทบลวกปาก แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งร้อนยิ่งอร่อย
อันนี้น่าจะเป็นต้มยำปลาเกาหลี (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
ซุปซี่โครงหมู่ใส่มันฝรั่ง น้ำจะค่อนข้างเข้มข้นกว่าซุปอื่นๆ
เวลาที่เครื่องเคียง ทั้งกิมจิหรือผักสดหมดก็แค่บอกพนักงานเสิร์ฟได้เลย รอไม่นานเค้าก็มาเติมให้เราอย่างรวดเร็วทันใจค่ะ ส้มกับแฟนเป็นคนกินกิมจิและผักเก่งมาก เรียกเติมไปหลายรอบ แต่พนักงานไม่มีอิดออดหรือชักสีหน้าใส่ นี่แหละอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ส้มติดใจร้านนี้ (แต่เจ้าของร้านผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์คิดเงิน ไปทีไรไม่เคยเห็นเค้ายิ้มหรือพูดขอบคุณเราก่อนออกจากร้านซักที มีแต่พนักงานเป็นคนพูด ไม่รู้เป็นที่บุคลิกหรือเค้าโมโหใครมา)
มาถึงการให้คะแนนแล้ว สำหรับส้มขอแบ่งเป็นข้อๆ ตามนี้นะคะ
อาหาร-รสชาติ : ยอดเยี่ยม เอาไปเลย 5 คะแนนเต็ม ทั้งเนื้อหมู-เนื้อวัวสไลด์ที่สั่งประจำ รวมถึงเครื่องเคียงทุกอย่าง ถูกปากคนไทยแน่นอนค่ะ ส้มเคยทำสถิติในระยะเวลา 2 เดือนไปกินมา 5 รอบ คิดดูสิคะว่าอร่อยขนาดไหน ถ้าอากาศเมืองไทยหนาวๆ เหมือนเกาหลีคงจะดี มันน่าจะทำให้ดีกรีอาหารอร่อยอีกมากเลย
ราคา : จาก 5 ขอให้ 4 คะแนนค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่อาหารราคา 300 บาทขึ้นไป แถมหลายอย่างที่อยากลองกินมากๆ เช่น หม้อไฟซีฟู๊ด ราคาหม้อเล็ก 1,000 บาท คือยอมรับว่าต้องหม้อใหญ่แน่ แต่ไปแค่ 2 คนคงกินกันไม่หมด แถมราคาก็โหดจนเอื้อมไม่ถึง คือแบบว่าร้องไห้หนักมาก (เลียนแบบคำฮิตซะเลย)
การบริการ : ให้ 4.5 คะแนนค่ะ ที่หัก 0.5 คะแนน เพราะช่วงเวลาที่คนเยอะๆ พนักงานอาจบริการไม่ทัน ทำให้ต้องคอยบอกว่าของที่สั่งยังไม่ได้รับ แต่อันนี้ไม่ว่ากัน เราเข้าใจ
บรรยากาศ/ความสะอาด : เอาไป 4 คะแนน ขอหักเรื่องควันและกลิ่นหน่อยนึง เพราะเครื่องดูดควันมันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ วันไหนที่ลูกค้าเต็มทุกโต๊ะ บอกเลยควันโขมงทั้งร้านล่ะค่ะ อีกอย่างโต๊ะก็ใกล้กันมากไปหน่อยด้วย ส่วนเรื่องความสะอาดอยู่ในระดับมาตรฐานค่ะ จาน ช้อน ตะเกียบ ถ้วย ทุกสิ่งสะอาดดี
ที่ตั้ง : อันนี้เอาไปเลย 4.5 คะแนน เพราะมีที่จอดรถเยอะ ค่าที่จอดไม่แพงเวอร์ แต่อาจเบื่อตอนที่ต้องฝ่ารถติดเข้าไปในโซนสุขุมวิทบ้างนะคะ แต่ถ้าไม่อยากเซ็งเรื่องรถติดก็แค่นั่ง BTS มา เวลากินเสร็จยังแวะเดินห้าง Terminal 21 ต่อได้อีกตังหาก
ข้อมูลร้าน
212/15 ซอยสุขุมวิท 12 อาคาร ชั้น 1 สุขุมวิทพลาซ่า ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
เบอร์โทร : 02-653-3815 (หากมาเกิน 2 ท่านสามารถโทรจองโต๊ะได้นะคะ)
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.)
ปล. ตอนนี้ร้านดูเร มีที่สาขา BEEHIVE Lifestyle Mall เมืองทองธานีด้วยนะคะ ใครอยู่แถวนั้นก็คงสะดวกในการเดินทางไปหม่ำของอร่อยมากขึ้นเนอะ
ส้มยังมีร้านอาหารอีกเพียบที่ต่อคิวรอมาเสิร์ฟความอร่อยให้ทุกคน ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านข้อมูลใน www.i-som.com ฮ้าบบบบ
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ www.facebook.com/ISomThailand